วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

เกณิยานุโมทะนาคาถา

เกณิยานุโมทะนาคาถา
อัคคิหุตตัง  มุขา  ยัญญา                                          สาวิตติ   ฉันทะโส   มุขัง
ราชา  มุขัง  มะนุสสานัง                                          นะทีนัง  สาคะโร  มุขัง
นักขัตตานัง  มุขัง  จันโท                                        อาทิจโจ  ตะปะตัง  มุขัง
ปุญญะมากังขะมานานัง                                          สังโฆ  เว  ยะชะตัง  มุขังฯ
ภะณิสสามะ  มะยัง  คาถา                                       กาละทานัปปะทีปิกา
เอตา  สุณันตุ  สักกัจจัง                                           ทายะกา  ปุญญะกามิโน ฯ
หมายเหตุ  

แบบนี้  นำ  กาละทานะสุตตะคาถา  ถ้านำ  วิหาระทานะคาถาเปลี่ยนที่ขีดเส้นใต้เป็น  วิหาระทานะทีปิกา


คำแปล

ยัญทั้งหลาย มีการบูชาไฟเป็นหัวหน้า (เป็นใหญ่, เป็นสิ่งเหนือกว่า)สาวิตติฉันท์ เป็นประมุขแห่งฉันทศาสตร์,
พระมหาราช เป็นประมุขแห่งมนุษย์นิกร, สมุทรสาคร เป็นประุมุขแห่งแม่น้ำทั้งปวง,
ดวงจันทร์เป็นประมุขแห่งดาวนักษัตรฤกษ์, ดวงอาทิตย์ เป็นประมุขแห่งของที่มีแสงร้อนทั้งหลาย ฉันใด
สงฆ์ย่อมเป็นประมุขแห่งทายกผู้หวังบุญบำเพ็บทาน ฉันนั้นฯ 
เราจักกล่าวคาุถา แสดงอานิสงส์การให้ตามกาล,
แสดงอานิสงส์การให้ที่อยู่ ขอทายกทั้งหลาย ผู้ต้องการบุญ จงตั้งใจฟังคาถาเหล่านี้เถิดฯ 


๑)ตั้งพัด 
๒)สัพพี 
๓)หัวหน้าสงฆ์นำรูปเดี่ยว *เกณิยานุโมทนาคาถา 
๔)รูปที่สองรับ กาลทานสุตตคาถา (กาเล)ถ้าไม่ใช่วิหารหรือ
๔.๑) กรณีถวาย โบสถ์ วิหาร ฯลฯ จึงเปลี่ยนใช้ วิหารทานคาถา 
๔.๒) หัวหน้าสงฆ์นั่นเองต้องทราบว่า เป็น วิหาร จึงเปลี่ยน ท่อน
กาละทานัปปะทีปิกา เป็น วิหารทานะทีปิกา 
๕)หัวหน้าสงฆ์ถวายอดิเรก 
๖)รูปที่สองนำรับ ภวตุ สพฺพมงฺคลํ ฯลฯ พร้อมกัน เป็นอันเสร็จพิธี น้อมถวายวิสัชชนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น