วิหาระทานะคาถา
สีตัง อุณหัง ปะฏิหันติ ตะโต
วาฬะมิคานิ จะ
เสนาสนะย่อมป้องกันเย็นแลร้อน แลสัตว์ร้าย
เสนาสนะย่อมป้องกันเย็นแลร้อน แลสัตว์ร้าย
สิริงสะเป จะ มะกะเส สิสิเร จาปิ วุฏฐิโย
งู ยุง ฝนที่ตั้งขึ้นในสิสิระฤดู
ตะโต วาตาตะโป โฆโร สัญชาโต ปะฏิหัญญะติ
ลมแลแดดอันกล้า เกิดแล้ว ย่อมบันเทาไป
เลนัตถัญจะ สุขัตถัญจะ ฌายิตุง จะ วิปัสสิตุง
วิหาระทานัง สังฆัสสะ อัคคัง พุทเธหิ วัณณิตัง
การถวายวิหารแก่สงฆ์ เพื่อเร้นอยู่ เพื่อความสุข
เพื่อเพ่งพิจารณา แลเพื่อเห็นแจ้ง
พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่าเป็นทานเลิศ
ตัส๎มา หิ ปัณฑิโต โปโส สัมปัสสัง อัตถะมัตตะโน
เพราะเหตุนั้นแลบุรุษบัณฑิต เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ตน
วิหาเร การะเย รัมเม วาสะเยตถะ พะหุสสุเต
พึงสร้างวิหารอันรื่นรมย์ ให้ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพหูสูตรอยู่เถิด
เตสัง อันนัญจะ ปานัญจะ วัตถะเสนาสะนานิ จะ
ทะเทยยะ อุชุภูเตสุ วิปปะสันเนนะ เจตะสา
อนึ่งพึงถวายข้าวน้ำผ้าเสนาสนะแก่ท่านเหล่านั้น
ด้วยน้ำใจอันเลื่อมใสในท่านผู้ซื่อตรง
เต ตัสสะ ธัมมัง เทเสนติ สัพพะทุกขาปะนูทะนัง
ยัง โส ธัมมะมิธัญญายะ ปะรินิพพาตะยะนาสะโวติ ฯ
เขารู้ธรรมอันใดในโลกนี้แล้ว จะเป็นผู้ไม่มีอาสวะปรินิพพาน
ท่านย่อมแสดงธรรมนั้นอันเป็นเครื่องบันเทาทุกข์ทั้งปวงแก่เขาดังนี้.