วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

พระสังคิณี

พระสังคิณี

            กุสะลา  ธัมมา  อะกุสะลา  ธัมมา  อัพํยากะตา  ธัมมาฯ  กะตะเม  ธัมมา  กุสะลาฯ  ยัสํมิง  สะมะเย  กามาวะจะรัง   กุสะตัง  จิตตัง  อุปปันนัง  โหติ  โสมะนัสสะสะหะคะตัง  ญาณะสัมปะยุตตัง  รูปารัมมะณัง  วา  สัททารัมมะณัง  วา  คันธารัมมะณัง  วา  ระสารัมมะณัง  วา  โผฎฐัพพารัมมะณัง  วา  ธัมมารัมมะณัง  วา  ยัง  ยัง  วา  ปะนารัพภะ  ตัสํมิง  สะมะเย  ผัสโส  โหติ  อะวิกเขโป  โหติ  เย  วา  ปะนะ  ตัสํมิง  สะมะเย  อัญเญปิ  อัตถิ  ปะฎิจจะสะมุปปันนา  อะรูปิโน  ธัมมา  อิเม  ธัมมา  กุสะลาฯ

ธรรมทั้งหลาย ที่เป็นกุศล ธรรมทั้งหลายที่เป็นอกุศล ธรรมทั้งหลายที่เป็นอัพยากฤต ธรรมเหล่าไหนเป็นกุศล ในสมัยใด กามาวจรกุศลจิตที่สหรคตด้วยโสมนัส สัมปยุคด้วยญาณเกิดขึ้น ปรารภอารมณ์ใดๆ จะเป็นรุปารมณ์ก็ดี สัททารมณ์ก็ดี คันธารมณ์ก็ดี รสารมณ์ก็ดี โผฏฐัพพารมณ์ก็ดี ธรรมารมณ์ก็ดี ในสมัยนั้น ผัสสะ ความฟุ้งซ้านย่อมมี อีกอย่างหนึ่งในสมัยนั้น ธรรมเหล่าใดแม้อื่น มีอยู่ เป็นธรรมที่ไม่มีรูป อาศัยกันและกันเกิดขึ้น ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น